December 2, 2021

Fav รับออกแบบบ้าน 372

เทคนิคการรีไฟแนนซ์ให้คุ้มค่า

รีไฟแนนซ์คืออะไร Refinance สำหรับใครที่อยากมีบ้านและผ่อนให้ถูกลงต้องรู้จักการ รีไฟแนนซ์ คือการกู้ยืมสินเชื่อก้อนใหม่เพื่อนำมาชำระหนี้ของสินเชื่อก้อนเดิม เพื่อจะย้ายไปผ่อนสินเชื่อใหม่ที่คุ้มค่ากว่าโดยจะกู้จากเจ้าหนี้รายเดิมหรือรายใหม่ก็ได้ เปรียบเทียบง่ายๆ ก็คล้ายกับการเปลี่ยนโปรโมชั่นหรือย้ายค่ายมือถือ เพื่อที่จะได้โปรโมชั่นที่คุ้มค่าและเหมาะสมกับเรามากกว่าเดิมนั่นเอง การรีไฟแนนซ์จะช่วยให้ผู้ขอกู้ประหยัดเงิน ด้วยข้อดีทั้งหมด 2 ข้อ ดังนี้ ได้อัตราดอกเบี้ยต่ำลง และยอดชำระรายเดือนถูกลง ได้ยืดเวลาผ่อนจ่ายให้นานขึ้น เคล็ดลับดีๆ ที่ช่วยรีไฟแนนซ์ให้ง่ายขึ้น ให้พิจารณารายได้ของเราว่ามีรายได้เพียงพอที่พอผ่อนชำระในแต่ละเดือนไหม หรือมีหลักทรัพย์อะไรที่เพิ่มมาใหม่จากเดิมและยังมีการผ่อนชำระอยู่ (ถ้ามีจะช่วยให้การรีไฟแนนซ์กับธนาคารใหม่สามารถทำได้ไม่ง่ายนัก) และที่สำคัญควรตรวจสอบให้ดีว่าระบบเครดิตบูโรของเรายังดีอยู่หรือเปล่า 2. นอกจากนั้นเราก็สามารถนำบ้านที่กำลังผ่อนอยู่กับสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร มาทำการรีไฟแนนซ์ผ่อนกับธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยถูกกว่าได้เหมือนกัน นอกจากจะทำให้เราผ่อนบ้านได้หมดไวแล้วยังมีเงินเหลือเอาไปต่อยอดในการลงทุนได้อีกด้วย 3. เข้าไปใช้บริการค้นหาธนาคารที่ให้โปรโมชั่นการรีไฟแนนซ์ที่ดีที่สุดจากแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น www.refinn.com สามารถช่วยค้นหาธนาคารที่ดีที่สุดในการรีไฟแนนซ์ของเราได้ ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์ 1. ตรวจสอบสัญญากู้บ้าน ถ้าอยากรีไฟแนนซ์บ้านขั้นแรกให้เอาสัญญากู้บ้านมาตรวจสอบดูว่าสามารถเริ่มทำได้ตอนไหน ซึ่งส่วนมากในสัญญาสามารถเริ่มรีไฟแนนซ์บ้านได้เมื่อผ่อนไปแล้ว 3 ปี 2. เลือกธนาคารที่ใช่ เป็นข่าวดีเพราะการรีไฟแนนซ์นั้นมีให้เลือกมากกว่า 100 โปรโมชั่น ซึ่งเรื่องของดอกเบี้ยขึ้นอยู่กับแต่ธนาคาร เราต้องนำข้อมูลของหลายๆ ธนาคารมาเทียบกัน ถ้าเลือกดีๆ จะได้ธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยที่ถูกที่สุด และช่วยให้เราประหยัดดอกเบี้ยได้นับแสนเลยทีเดียว  3. เตรียมเอกสาร การรีไฟแนนซ์บ้านมีเอกสารหลายส่วนที่ต้องเตรียม เพราะคล้ายการขอยื่นกู้บ้านใหม่อีกรอบ ซึ่งเอกสารที่แต่ละธนาคารต้องการมักจะคล้ายกัน […]

เทคนิคการรีไฟแนนซ์ให้คุ้มค่า Read More »

Faverhome รับออกแบบบ้าน

รอยร้าวบนเสา บอกอะไรคุณ??

จากภาพรอยร้าวลำดับแรก ที่พบในเสา คือ รอยร้าวที่เกิดขึ้นเฉียง บริเวณหัวเสา จะพบได้ในกรณีที่มีแผ่นดินไหวซึ่งเป็นรอยร้าวที่พบได้น้อยในประเทศไทย ซึ่งรอยร้าวเกิดจากแรงทั้งในแนวดิ่งและแรงด้านข้างมากระทำต่อเสา   รอยร้าวแบบนี้อันตรายและไม่สามารถใช้งานโครงสร้างนั้นได้ จนกว่าจะได้รับการแก้ไข         รอยร้าวลำดับที่ 2 คือ รอยร้าว ที่แตกตามแนวนอน เกิดด้านเดียว ของเสา รอยร้าวแบบนี้เกิดจากการที่เสาโดนแรงดัด ซึ่งโดยมากเกิดจากการที่ฐานรากของเสาด้านที่อยู่ตรงข้ามกับรอยร้าวนั้น มีการทรุดตัว   ดังนั้น การแก้ไขรอยร้าวแบบนี้แก้ไขที่เสาอย่างเดียวไม่เพียงพอ ต้องไปดูฐานรากที่เสาด้านตรงข้ามของมันด้วยว่ามีการทรุดตัวหรือเปล่า  เพราะถ้าไม่แก้ไขการทรุดตัวของฐานราก ก็จะแก้รอยร้าวไม่หาย          รอยร้าวลำดับที่ 3 คือรอยร้าว แบบปูนแตกลายงา  รอยร้าวแบบนี้อาจเกิดจากการยืดหดตัวของคอนกรีต ทำให้เกิดรอยแตกร้าวที่ผิว  แต่ปล่อยรอยร้าวไว้ก็ไม่ดี เพราะว่าอากาศและความชื้นจะเข้าภายในได้ ทำให้เหล็กเสริมที่อยู่ภายในเป็นสนิม ดังนั้นควรปิดรอยร้าว  ด้วยวัสดุประเภท Acrylic  หรือ Polyurethane  เพื่อให้รอยที่ปิดมีความยืดหยุ่นพอควร  หรือจะเลือกใช้วัสดุประเภท epoxy ก็ได้ แต่ไม่เหมาะกับรอยร้าวเล็กๆ และถ้าต้องทาสีทับจะทาสีไม่ติด            รอยร้าวลำดับสุดท้าย คือรอยร้าว แบบเป็นรอยร้าว ตรงๆ ลงมาที่ขอบของเสา  รอยร้าวแบบนี้ มักพบทั้งหัวเสา และโคนเสา ซึ่งอาจร้าวจนคอนกรีตกระเทาะออกมา เมื่อเอาคอนกรีตออกมาแล้วดูเหล็กเสริมข้างใน ก็จะเห็นว่า เหล็กนั้นเป็นสนิม  รอยร้าวแบบนี้ ต้องแก้ไขโดยขัดสนิมเหล็กออกก่อน แล้วทาเหล็กด้วยวัสดุกันสนิม แล้วจึงปิดรอยแตกด้วย

รอยร้าวบนเสา บอกอะไรคุณ?? Read More »

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลการตลาด

    คุกกี้ที่ใช้ในการตลาดออนไลน์ ใช้เพื่อการจดจำผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ ใช้เพื่อนำเสนอข้อมูลทางการตลาดให้เหมาะสมเฉพาะบุคคลมากยิ่งขึ้น

Save