ต้นไม้มงคล ที่มีทั้งไม้ยืนต้น ไม้ดอก ไม้ประดับ ลองหาต้นไม้มงคลความหมายดีที่ปลูกในบ้านได้ และดูแลรักษาง่ายๆ มาปลูกประดับตกแต่ง เพิ่มความมงคล มั่นคงให้บ้านเรากันค่ะ ต้นไม้มงคลที่เราแนะนำมีดังนี้
1. กวักมรกต ต้นนี้แค่ชื่อก็มงคลแล้ว ใบสีเขียวมรกตสวยมาก คนที่ปลูกต้นนี้มักมีโชคลาภ ปรารถนาสิ่งใดจะสมหวัง เชื่อกันว่า หากปลูกแล้ว ก้านนึงมี 21 ใบ จะยิ่งให้โชค ส่วนการเลี้ยงก็ง่ายมาก รดน้ำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือจนกว่าดินจะแห้ง สามารถเลี้ยงในบ้านที่ไม่ค่อยมีแสงได้ หรือเลี้ยงกับแดดจัดก็ได้
2. ไทรใบสัก นิยมปลูกเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล เมตตามหานิยม เสริมฮวงจุ้ย และช่วยให้ค้าขายดี มีคุณสมบัติเรื่องการดูดสารพิษและฟอกอากาศให้สะอาดสดชื่น ส่วนใหญ่ปลูกไว้ในห้องนั่งเล่น ริมระเบียง หรือห้องทำงาน บริเวณติดหน้าต่างที่แสงแดดส่องถึง เพราะเป็นต้นไม้ที่รักแสงแดด แต่ก็สามารถอยู่ได้ในที่รำไรได้ และไม่ต้องการน้ำชุ่มเกินไป รดน้ำ 1 ครั้ง ให้น้ำซึมถึงก้นกระถาง 3-4 วันค่อยมาเช็คความชื้นของดินถ้ายังชื้นอยู่ไม่ต้องรดน้ำ
3. ว่านนางคุ้ม หรือ ว่านผู้เฒ่าเฝ้าบ้าน มีความเชื่อที่ว่าจะช่วยปกป้องภัยอันตราย ป้องกันสัตว์ร้าย ป้องกันไฟไหม้บ้าน หรือสิ่งชั่วร้ายต่างๆไม่ให้เข้ามาภายในบ้าน เหมือนมีผู้เฒ่าคอยปกป้องลูกหลานภายในบ้าน และช่วยให้ทำมาค้าขายดีขึ้น ว่านชนิดนี้ใบจะมีรูปทรงหัวใจสีเขียว ดอกสีขาว มีกลิ่นหอม รดน้ำเช้า-เย็น อย่างสม่ำเสมอ รดแค่พอเปียกเท่านั้น อย่าให้น้ำมากไป เพราะจะทำให้หัวว่านเน่าได้
4. ต้นเงินไหลมา มีความเชื่อว่าหากปลูกไว้ที่บ้านจะทำให้เกิดความร่ำรวย เงินไหลมาเข้าบ้านทำให้มั่งมี สร้างความเป็นเสน่ห์แก่บ้าน ถ้าให้ดีควรปลูกทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีแสงแดดรำไรหรือในร่ม รดน้ำ 5-7 วัน/ครั้ง
5. ต้นวาสนา คนไทยโบราณเชื่อว่า บ้านใดที่ปลูกต้นวาสนาอธิษฐานไว้ประจำบ้าน จะทำให้เกิดความสุข สมหวังในชีวิต และเชื่อว่าบ้านใดที่ปลูกต้นวาสนาอธิษฐานจะทำให้มีโชควาสนา เนื่องจากเป็นไม้เสี่ยงทาย คือ ถ้าหากผู้ใดดูแลรักษารดน้ำพรวนดิน ใส่ปุ๋ยอย่างดี จนต้นวาสนาออกดอก จะช่วยให้คนในครอบครัวนั้นได้รับโชคลาภเพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัย ควรปลูกต้นวาสนาอธิษฐานไว้ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ผู้ปลูกควรปลูกในวันอังคาร เพราะโบราณเชื่อว่าการปลูกไม้เพื่อเอาประโยชน์ทางใบ ให้ปลูกในวันอังคาร ถ้าจะให้เป็นมงคลยิ่งขึ้นผู้ปลูกควรเป็นสภาพสตรี เพราะวาสนาอธิษฐานเป็นชื่อที่เหมาะสมกับสุภาพสตรี
ที่มา www.ddplant.com