ประตูบ้านมีหลายชนิดสามารถจำแนกประเภทต่างๆ ได้ตามวัสดุที่ใช้ในการผลิต ประตูแต่ละประเภทนั้นควรมีการเลือกนำไปใช้งานในพื้นที่ที่แตกต่างกัน เพื่อความเหมาะสมตามสภาพพื้นที่การใช้งาน การเลือกใช้ประตูให้เหมาะสมจะช่วยให้การใช้งานมีความคงทน ลดปัญหาต่างๆที่จะตามมา ดังนั้นเราควรทำความรู้จักกับประตูแต่ละประเภทเพื่อให้ใช้งานได้อย่างเหมาะสมดังนี้
1. ประตูไม้จริง
ไม้เป็นวัสดุธรรมชาติที่คนไทยคุ้นเคยและนิยมใช้กันมานาน เพราะหาซื้อง่าย ประตูไม้จริงเข้ากับบ้านได้ทุกสไตล์ ให้ความรู้สึกอบอุ่น เป็นธรรมชาติ สามารถทำลวดลายและสีสันได้ตามต้องการ ไม้ที่นิยมทำข้อจำกัดของการใช้ประตูไม้จริงคือ เวลาโดนน้ำหรือได้รับความชื้นบ่อย ๆ ไม้จะบวม เกิดเชื้อรา เมื่ออากาศแห้งลงไม้จะโก่ง บิดตัว การเลือกใช้ประตูไม้จริงจึงควรเลือกเฉพาะส่วนที่ไม่เสี่ยงต่อการโดนน้ำ เช่น ประตูห้องนอน และหากต้องการนำมาใช้กับประตูหน้าบ้าน ควรเลือกไม้เนื้อแข็งเท่านั้น และควรบำรุงรักษาเป็นประจำอยู่เสมอ
2. ประตูพีวีซี (PVC)
ประตูพีวีซี (PVC) เป็นประตูที่ทำมาจาก PVC เนื้อผิวเนียนเรียบเป็นแผ่นเดียวกันตลอดบาน เนื่องจากเป็นวัสดุสังเคราะห์จึงไม่มีปัญหาเรื่องความชื้นและปลวก ไม่ผุ ไม่หด หรือบิดงอ น้ำหนักเบาติดตั้งง่าย ราคาถูก ข้อเสียคือ ไม่เหมาะกับการใช้งานภายนอก ไม่แข็งแรง บาง โดนแดดจะกรอบ และแตกหักง่าย อายุการใช้งานสั้น เหมาะกับการใช้งานชั่วคราว หรืองานที่ไม่ต้องการ ความแข็งแรงทนทานหรือความสวยงาม
3. ประตูยูพีวีซี (uPVC) หรือ ไวนิล (Vinyl)
เป็นประตูประกอบโดยมีโครงสร้างเป็นไม้หรือ PVC มีแกนภายในเป็นโฟมหรือวัสดุอื่นๆ แล้วปิดหน้าบานด้วยแผ่น PVC ที่ปั้มขึ้นรูปเป็นลายของประตู นำแผ่นPVCที่ได้มาติด ทั้ง 2 ด้านด้วยกาว ประตูUPVC จึงมีคุณสมบัติที่กันน้ำที่ผิวหน้าได้ดี ทนต่อแรงกระแทก สามารถกันน้ำได้ 100 % กันปลวกและแมลง กันเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดี ข้อจำกัดคือ ทาสีไม่ได้ ไม่เหมาะกับการใช้งานกลางแจ้งที่ไม่มีหลังคาบัง
4. ประตูไม้ WPC (Wood-Plastic Composite)
ทำจากไม้บดผสมพลาสติก แข็งแรงทนทาน กันปลวก ไม่ลามไฟ กันแรงกระแทกได้ดี กันน้ำกันฝนใช้ได้ทั้งภายในและภายนอก มีลวดลายและสีสันให้เลือกใช้มากมาย ข้อควรระวังในการใช้งาน ประตู WPC ไม่ควรทำความสะอาดด้วยน้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำ
5. ประตูไม้ HDF (High Density Fiber)
ประตูไม้ HDF คือประตู ที่ผลิตจาก เส้นใยไม้ หรือที่เรียกว่า ไฟเบอร์บอร์ด โครงสร้างบานประตูจึงแข็งแรงเหมือนไม้จริง เหมาะสำหรับใช้เป็นประตูภายใน คุณภาพดีกว่าประตูไม้อัด MDF ป้องกันปลวก มอด แมลง ทนความชื้นได้ดีในระดับหนึ่ง มีน้ำหนักเบา ติดตั้งได้ง่าย ทาสีได้หลากหลาย ราคาไม่แพง
6. ประตูไม้เอ็นจิเนียร์
ประตูไม้เอนจิเนียร์ เป็นการผสมกันระหว่างไม้จริงกับไม้สำเร็จ โดยไม้จริงนำมาทำโครงสร้างของประตูในส่วนของผิวหน้าก็จะเป็นผิวไม้วีเนียมาทับด้านหน้าอีกครั้งหนึ่ง ความคงทนจะดีกว่า ประตู HDF และแข็งแรงเทียบเท่าประตูไม้จริง
7. ประตูปิดผิวลามิเนต (Laminate Door)
คือประตูที่ใช้วัสดุประเภทลามิเนตปิดผิวเพื่อความสวยงาม โครงสร้างภายในเป็นประตูบานไม้ประกอบ ปิดหน้าบานด้วยแผ่นHDFหรือแผ่นไม้อัดยาง ปิดทับชั้นบนสุดด้วยแผ่นลามิเนต มีทั้งแบบที่เป็นประตูบานไม้ประกอบ(HOLLOW DOOR) และโครงสร้างไม้จริงบานตัน(SOLID DOOR) ประตูปิดผิวลามิเนตมีน้ำหนักเบา ติดตั้งได้ง่าย สวยงาม มีให้เลือกหลายแบบ ข้อเสียของบานประตูชนิดนี้คือ ไม่เหมาะกับการใช้งานภายนอก รับแรงกระแทกได้น้อยกว่าไม้จริง
8. ประตูอะลูมิเนียม Aluminium Door
เป็นประตูที่นำอลูมิเนียมมาชุบหรือพ่นสีตามต้องการ มีความแข็งแรงทนทาน น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย สวยงาม มีให้เลือกหลายแบบ มีความยืดหยุ่นในการติดตั้ง ราคาเหมาะสม หาช่างง่าย ข้อจำกัดคือ หากเก็บรอยต่อไม่ดีอาจเกิดการรั่วซึมได้ เกิดรอยถลอกได้ง่าย การเปิดปิดมักมีเสียงดังจากโลหะกระทบกัน
