favehome

     กระเบื้องมุงหลังคามีหลากหลายแบบ ขึ้นอยู่กับการออกแบบบ้าน  สไตล์บ้านและงบประมาณที่มี ซึ่งราคากระเบื้องก็จะแตกต่างกันไป ส่วนใหญ่กระเบื้องมุงหลังคาที่นิยมใช้กันมีดังนี้ 1. กระเบื้องคอนกรีต      เป็นกระเบื้องที่ผลิตจากคอนกรีต มีทั้งแผ่นเรียบและแผ่นลอน เหมาะกับบ้านทุกสไตล์ มีคุณสมบัติแข็งแรงทนทาน  ป้องกันความร้อนได้ดี เสียงไม่ดังเวลาฝนตก ราคาเหมาะสม สามารถล้างทำความสะอาดได้ หรือทาสีใหม่ทับได้ สวยงามมีให้เลือกหลายสี ข้อเสียคือมีน้ำหนักมาก ต้องทำโครงหลังคาให้แข็งแรงเพื่อรับน้ำหนัก 2. กระเบื้องเซรามิค      เป็นกระเบื้องที่ทำจากดินเผาขึ้นรูป มีความแข็งแรงทนทาน ผิวมันวาว สีไม่ซีดจางเหมือนกระเบื้อชนิดอื่น มีคุณสมบัติสะท้อนความร้อนได้ดี ไม่กักเก็บความร้อน มีน้ำหนักเบากว่ากระเบื้องคอนกรีต ทำให้ประหยัดโครงสร้างมากกว่า เหมาะกับบ้านสไตล์ Luxury , Contemporary ,Classic   3.กระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต์      เป็นกระเบื้องที่ผลิตจากปูนซีเมนต์ผสมกับเส้นใยสังเคราะห์และเซลลูโลส มีทั้งแบบเรียบและแบบลอน มีคุณสมบัติสะสมความร้อนต่ำ มีความยืดหยุ่นสูง แข็งแรงทนทาน แผ่นกระเบื้องบางและน้ำหนักเบา ประหยัดโครงสร้าง ประหยัดค่าใช้จ่าย เหมาะกับบ้านสไตล์ Country , Modern

     ในการสร้างบ้าน (อ่านบทความเกี่ยวกับการสร้างบ้าน)จำเป็นต้องมีที่ดิน บางคนก็มีที่อยู่แล้ว และบางคนก็ต้องไปหาซื้อที่ดินที่ถูกใจ เพื่อปลูกบ้าน ซึ่งที่ดินก็มีหลายแบบหลายประเภท บางประเภทก็ไม่สามารถมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้นได้ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องตรวจสอบโฉนดก่อนซื้อที่ เพื่อให้ได้ที่ดินที่เราสามารถเป็นเจ้าของได้อย่างเต็มที่ ซึ่งการตรวจสอบเบื้องต้นให้ดูจากสีของตราครุฑในโฉนดซึ่งจะแสดงถึงกรรมสิทธิ์และการซื้อขายเปลี่ยนมือ โดยโฉนดแต่ละประเภทมีดังนี้ 1. โฉนดที่ดิน นส.4 (ครุฑแดง)      เป็นโฉนดทั่วๆไป ที่เรารู้จักกันดี  เป็นเอกสารสิทธิ์ที่มีตรา ครุฑสีแดง สามารถซื้อขาย จำนอง เปลี่ยนมือได้ตลอดเวลา เป็นโฉนดที่ให้กรรมสิทธิ์แก่เจ้าของเต็มที่ 2. นส.3 ก (ครุฑเขียว) เป็นหนังสือแสดงสิทธิ์การครอบครอง ไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน  สัญลักษณ์รูป ครุฑเขียว โดย นส.3 ก สามารถซื้อขาย จำนองได้ โดยโอนสิทธิ์ครอบครองให้แก่ผู้อื่น และยังสามารถทำเรื่องเปลี่ยนเป็นโฉนดที่ดิน (นส.4) ได้อีกด้วย 3. นส.3 (ครุฑดำ)      เป็นหนังสือรับรองการทำประโยชน์ โดยมีสัญลักษณ์ ครุฑดำ จะคล้ายกับ นส.3 ก แต่สิ่งที่ต่างกันก็คือ

     การสร้างบ้านสักหลังให้มีคุณภาพไม่ใช่เรื่องยาก หากเราความเข้าใจลำดับการสร้างบ้าน มีการวางแผนเตรียมการที่ดี จะช่วยลดปัญหาความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้น ไม่เกิดงบประมาณบานปลาย อีกทั้งยังสามารถตรวจงานก่อนที่จะเบิกจ่ายค่าก่อสร้างในแต่ละงวดได้อีกด้วย  1. ออกแบบบ้าน ประมาณราคา ว่าจ้างผู้รับเหมา      เป็นขั้นตอนแรกในการสร้างบ้านให้ตรงกับความต้องการ การจะได้แบบบ้านมามีหลายวิธี เช่น การว่าจ้างสถาปนิกออกแบบบ้าน การซื้อแบบบ้านสำเร็จรูป หรือการไปขอรับแบบบ้านฟรีจากกรมโยธา ที่ทำแบบไว้แจกประชาชนฟรี อ่านบทความการเลือกทิศทางบ้านที่ดี      เมื่อได้แบบบ้านที่ตรงกับความต้องการแล้ว ขั้นตอนถัดไปก็นำแบบบ้านไปยื่นขออนุญาตปลูกสร้างที่สำนักงานเขต หรือ เทศบาลท้องถิ่นที่สังกัดอยู่ นอกจากนี้อาจจัดทำ BOQ เอกสารประมาณราคาค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง เพื่อวางแผนงบประมาณให้เหมาะสม 2. เตรียมพื้นที่ เป็นขั้นตอนที่ผู้รับเหมาเข้ามาเคลียร์พื้นที่หน้างาน ผู้รับเหมาเคลียร์พื้นที่หน้างาน  ขนย้ายเครี่องมืออุปกรณ์ต่างๆเข้าพื้นที่ ก่อสร้างแคมป์ / ที่พักคนงาน ดำเนินการขอน้ำหรือไฟฟ้าชั่วคราวเพื่อใช้งาน 3. งานวางผังอาคาร ผู้รับเหมาทำการตีผังอาคารตามแบบแปลน กำหนดตำแหน่งเพื่อตอกเสาเข็ม 4.งานตอกเสาเข็ม สำรวจพื้นที่ และตรวจสอบดิน (Soil test) เพื่อใช้เสาเข็มให้เหมาะกับชนิดและความลึกของดินในพื้นที่นั้นๆ เลือกประเภทเสาเข็มที่เหมาะสม เช่น เสาเข็มตอก เสาเข็มเจาะ

     ห้องนอนเป็นพื้นที่สำหรับพักผ่อน ไม่ควรมีของและเฟอร์นิเจอร์ที่เยอะเกินไปจนรู้สึกอึดอัด นอกจากนี้การเลือกใช้สีทาภานในห้องนอนก็มีความสำคัญเช่นกัน วันนี้เรามีเทคนิคการเลือกใช้สีในห้องนอนมาฝากกันค่ะ      การทาสีห้องนอนควรทาสีที่ให้ความรู้สึกเย็นสบาย ให้ความรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย ควรเลือกทาสีเอิร์ธโทน หรือสีพาสเทลเรียบๆ รวมถึงสีเทาอ่อนๆ และสีโทนเย็นต่างๆ​  การเลือกสีในห้องนอนเพื่อการพักผ่อนที่ดี 1. เน้นใช้สีโทนเย็น การทาสีห้องนอนควรทาสีที่ให้ความรู้สึกเย็นสบาย ให้ความรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย ควรเลือกทาสีเอิร์ธโทน หรือสีพาสเทลเรียบๆ รวมถึงสีเทาอ่อนๆ และสีโทนเย็นต่างๆ​  สีโทนเย็นส่งผลให้การนอนหลับมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น สีฟ้า สีเขียว ซึ่งมีงานวิจัยรองรับว่าผู้ที่นอนหลับอยู่ในห้องนอนที่มีการทาสีด้วยโทนสีเย็น สามารถนอนหลับได้สนิทและยาวนานกว่าผู้ที่นอนหลับอยู่ในห้องนอนที่ทาสีอื่น โดยเฉลี่ยแล้วห้องนอนที่ถูกทาสีด้วยโทนสีเย็น นอนหลับสนิทได้นานถึง 8 ชั่วโมง  อ่านบทความ 5เฉดสีที่นิยมใช้ในห้องนอน 2. สีทาห้องนอนควรต่างจากห้องอื่นๆ  ตามหลักความเชื่อ การใช้สีห้องนอนให้แตกต่างจากห้องอื่นจะช่วยให้มีพลังงานไหลเวียนได้ดี เป็นศิริมงคล 3. ไม่ควรทาสีขาวล้วนทั้งห้อง สีขาวเป็นสีที่สะท้อนแสงจากวัตถุอื่นในห้องนอน อาจส่งผลให้เกิดภาวะนอนหลับไม่สนิทได้ มีปัญหาสุขภาพตามมา อีกทั้งในด้านฮวงจุ้ยเชื่อกันว่า ว่าไม่ดี เพราะสีขาวล้วนจะเก็บพลังชี่ (Chi) ไว้ไม่อยู่ 4. การแบ่งพื้นที่ทาสีตามสัดส่วนเพื่อความสวยงาม คือแบ่งสีทาภายในห้องนอนออกเป็น 3

     การเลือกใช้สีห้องนอนนั้นส่วนใหญ่แล้วก็ขึ้นอยู่กับรสนิยมและความต้องการของเจ้าของห้องเป็นหลัก วันนี้เราจะมาแนะนำสีทาห้องนอนให้คุมโทนและสวยงาม สามารถเข้ากันได้กับห้องนอนทุกรูปแบบ 1. เลือกใช้สีโทนเย็น      การใช้สีโทนเย็นจะทำให้รู้สึกผ่อนคลาย สบาย เหมาะกับการพักผ่อน ซึ่งสีโทนเย็นเช่น สีฟ้า สีเขียว สีเทาอ่อน สีขาว เป็นต้น  การใช้สีโทนเย็นจะช่วยทำให้นอนหลับสบาย ส่งผลทางด้านอารมณ์ให้มีความสุข เบิกบาน สดชื่น ซึ่งสามารถเลือกจับคู่กับโทนสีขาว สีเทาอ่อน สีเขียวอมเทา จะทำให้ห้องนอนสวยงามยิ่งขึ้น 2. ห้องนอนโทนสีชมพู     สีชมพูเป็นสีที่อบอุ่น ออกผู้หญิงสายหวาน ควรเลือกใช้โทนสีชมพูอมเทา ชมพูอ่อน ผสมกับคู่สีเทาเข้ม น้ำตาลแดง จะทำให้ดูหรูหรามากขึ้น สีชมพูยังช่วยให้จิตใจสงบ ผ่อนคลายและอ่อนโยนขึ้นได้อีกด้วย 3. ห้องนอนโทนสีน้ำตาล     สีน้ำตาลเป็นสีที่เรียบหรู สามารถเข้ากันได้กับทุกสี ให้ความรู้สึกถึงความสงบ และอบอุ่น ควรเลือกใช้สีน้ำตาลร่วมกับสีโทนขาว หรือเทา จะทำให้ห้องนอนดูสวยงามและน่าอยู่มากขึ้น 4. ห้องนอนโทนสีเขียว     การใช้สีเขียวทาภายในห้องนอนควรเลือกสีโทนอ่อน